ReadyPlanet.com
dot dot




ประวัติ

            ย้อนอดีตกลับไปในปี พ.ศ.2521 ในคำปรารภของ หนังสือ อนุสรณ์ของสมาคมโรงสีข้าว ไทย-ฉบับปฐมฤกษ์มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่าชาวนากับผู้ประกอบอุตสาหกรรมโรงสีข้าวเป็นของคู่กันและถือว่าชาวนาเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อผู้ประกอบอุตสาหกรรมโรงสีข้าวอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีชาวนา ก็ไม่สามารถมีผู้ประกอบการโรงสีได้ ดังนั้น เมื่อสามารถตั้งสมาคมโรงสีข้าวไทย ก็ได้พยายามหาทางเสนอแนะต่อรัฐบาลให้เห็น ทางเลือกที่เห็นว่าดีที่สุด ในกรรมวิธีประกอบธุรกิจค้าข้าว อันจะส่งดีต่อชาวนา และเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตามสมควร

           ด้วยเหตุผลอันสำคัญยิ่งของการพัฒนากระบวนการผลิต และค้าข้าวของประเทศ อันจะเอื้อประโยชน์ต่อทั้งชาวนา และผู้ประกอบอุตสาหกรรมโรงสีข้าวดังกล่าว ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับ นายเจริญ  อุ่นอนันต์ เจ้าของ และผู้จัดการ หจก.โรงสีกิจวัฒนา 1-2 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ดำริที่จะจัดตั้งสมาคมโรงสีข้าวไทยขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2521

          แนวดำริดังกล่าวสอดคล้องกับผู้ประกอบธุรกิจโรงสีหลายท่านที่มีสายตามองเห็นการณ์ไกลเห็นว่า สภาพเศรษฐกิจทางการเมือง และกลไกการบริหารธุรกิจเกี่ยวกับการค้าข้าวของประเทศไทยในปัจจุบันนี้มีปัญหาสลับซับซ้อน ซึ่งมีแนวโน้มเป็นผลให้ผู้ประกอบกิจการโรงสีข้าวทั้งหลายทั้งปวง  จำเป็นต้องรวมผนึกกำลังกัน เพื่อประโยชน์แห่งความอยู่รอดของผู้ประกอบการโรงสีข้าวเอง และเพื่อหวังผลประโยชน์ให้แก่เกษตรกร ชาวนา ผู้ผลิตข้าวทั้งประเทศในด้านการขายข้าวให้ได้ราคาดีเท่าที่ควร

          เพื่อสร้างความเข้าใจแต่ดั้งเดิมมาในหมู่ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรชาวนาส่วนใหญ่เข้าใจว่า โรงสีเป็นพ่อค้าคนกลาง เป็นตัวการสำคัญที่จะชี้ให้ ต้นตาย ชี้ปลายเป็น คือสามารถกำหนดราคาข้าวเปลือกได้ตามใจชอบ ซึ่งทำให้โรงสีกลายเป็นศัตรูสำคัญ แทนที่จะเป็นมิตรที่ดีของชาวนา ทั้งที่ในความจริงนั้น โรงสีเองไม่สามารถจะกำหนดราคาข้าวสารได้ และเมื่อสีเป็นข้าวสารแล้ว ต้องอาศัยขายข้าวสารผ่านผู้ส่งออกโดยที่ผู้ส่งออกเป็นผู้กำหนดราคาข้าวสารให้

          ดังนั้นเพื่อแก้ไขภาพพจน์ดังกล่าว โรงสีต้องรวมตัวกันให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แล้วร่วมกันแก้ไขปัญหา ช่วยกันสร้างกลไกเกี่ยวกับบริหารธุรกิจการค้าข้าวของประเทศไทยในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น แล้วจัดให้มีการแถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนเพื่อให้ประชาชน เกษตรกร และชาวนา เข้าใจถึงบทบาท และความเป็นจริงของผู้ประกอบธุรกิจโรงสีข้าวได้ดียิ่งขึ้น แม้การรวมตัวของผู้ประกอบธุรกิจโรงสีเป็นกลุ่มเล็กๆ จะมีมาช้านานแล้ว แต่การรวมตัวกันในรูปแบบของสมาคม ซึ่งจะมีสมาชิกเป็นโรงสีข้าวทั่วประเทศนั้นยังไม่อาจรวบรวมได้ และยังไม่มีผู้ใดหยิบยกปัญหา และความจำเป็นนี้ขึ้นมาพิจารณา และยังขาดผู้ชี้นำในเรื่องนี้ให้เกิดผลปฏิบัติอย่างจริงจัง ซึ่งการที่จะทำให้ผลงานนี้สำเร็จได้จำเป็นต้องเสียสละทั้ง แรงใจ ทุนทรัพย์ส่วนตัว รวมทั้งความพยายามจนสุดความสามารถก็ตาม

          เมื่อ นายเจริญ  อุ่นอนันต์ ตัดสินใจเป็นผู้นำแนวความคิดนี้ และได้หารือในขั้นแรก  กับบรรดาเพื่อนผู้ประกอบธุรกิจโรงสี คือ นายโอฬาร  อากาศวิภาต เจ้าของ และผู้จัดการโรงสีข้าว อยุธยาธัญญลักษ์,นายนิพันธ์  แสงนิล,นายเสงี่ยม  ถาวรรัตน์,นายมนัส  ขัตติมานนท์ และ นายสุวรรณ เฮงตระกูล เป็นต้น ซึ่งได้รับการสนับสนุน และข้อคิดเห็นต่าง ๆ เป็นอย่างดี

            ต่อมาเมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 2521 นายเจริญ  อุ่นอนันต์  ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวตระเวนไปตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบกิจการโรงสีข้าวประมาณ 40 จังหวัด เพื่อประสานงาน ชี้แจงถึงเหตุผล และความจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องผนึกกำลังกัน และสร้างความเข้าใจในการจัดตั้ง   สมาคมโรงสีข้าว โดยใช้ระยะเวลาในการทำงานครั้งนี้ประมาณ 3 เดือน จากการเดินทางในครั้งนั้น   นายเจริญ อุ่นอนันต์ ได้ขอให้แต่ละจังหวัดส่งตัวแทนจังหวัดละ 2 ท่าน เข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งสมาคมโรงสีข้าว และได้จัดการประชุมขึ้น ภัตตาคารเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี เมื่อวันที่ 7 -กรกฎาคม 2521 โดยมีตัวแทนจากโรงสีของจังหวัดต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมจำนวน 23 จังหวัด

           จากการประชุมในครั้งนั้น ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตั้งในรูปของสมาคม และจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ก่อนที่จะได้รับจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมายนั้น ให้รวมตัวกันเป็นชมรมไปก่อน และให้ถือว่าผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมจากจังหวัดต่าง ๆ ในวันนั้น เป็นกรรมการ  ก่อตั้งสมาคมทุกคน โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายเจริญ  อุ่นอนันต์ เป็นประธาน และที่ประชุมได้แต่งตั้งผู้เริ่มก่อการดำเนินการจดทะเบียนสมาคม 3  ท่าน คือ

            1. นายเจริญ  อุ่นอนันต์  เจ้าของและผู้จัดการ โรงสีเจริญกิจวัฒนา 1-2  อ.โคกสำโรง  จ.ลพบุรี

            2. นายโอฬาร   อากาศวิภาต  เจ้าของและผู้จัดการ โรงสีข้าวอยุธยาธัญญลักษณ์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

            3. นายปัญญา   ประภากร  เจ้าของและผู้จัดการ โรงสีไฟท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

            การติดต่อประสานงาน ในเรื่องการจดทะเบียนก่อตั้งสมาคม เป็นไปอย่างรวดเร็ว และ ได้รับใบอนุญาต เมื่อวันที่ 16  ตุลาคม 2521 โดยใช้ชื่อว่า สมาคมโรงสีข้าวไทยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Thai Rice Mills Association” ซึ่งตราของสมาคมโรงสีข้าวไทย มีเครื่องหมายเป็นรูปวงกลมสองชั้น  โดยวงกลมชั้นนอกมีชื่อของ สมาคมฯ เป็นภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน ส่วนวงกลมชั้นที่สองเป็นรูปรวงข้าวสองรวงไขว้กันที่โคนรวง ตรงจุดไขว้ มีปล่องโรงสีตั้งอยู่ 1 ปล่อง ปากปล่องมีควันไฟ และเบื้องหลังปล่องมีกลุ่มเมฆลอยอยู่

            หลังจากการก่อตั้งสมาคมโรงสีข้าวไทย เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 4 ธันวาคม 2521  ณ ภัตตาคารเจ้าพระยาธนบุรี ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดแรกของสมาคมโรงสีข้าวไทย ซึ่งผลการเลือกมีดังนี้

 


           

          นายเจริญ  อุ่นอนันต์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย คนแรก ได้กล่าวรายงานต่อ ฯพณฯ  ทำนอง สิงคาลวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันเปิดป้ายชื่อของ   สมาคมโรงสีข้าวไทย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2521  มีข้อความที่น่าสนใจตอนหนึ่งว่า ในการจัดตั้ง -สมาคมโรงสีข้าวไทยขึ้นในครั้งนี้ ข้าพเจ้าและเพื่อน ๆ ผู้ประกอบกิจการโรงสีข้าวหลายท่าน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในด้านเศรษฐกิจของประเทศชาติ และความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ชาวนา ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของชาติในในรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ซึ่งได้พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาตลอด จึงมีความคิดที่จะร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิต และการตลาดเกี่ยวกับข้าวเปลือก ข้าวสาร กิจการโรงสีข้าวทั่วประเทศ เมื่อชาวนามีความเป็นอยู่ดีย่อมมีกำลังใจที่จะประกอบอาชีพ สร้างเสริมฐานะของตนเอง ทั้งนี้ย่อมจะเป็นการแบ่งเบาภาระ และเป็นแรงส่งให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองต่อไปด้วย คณะกรรมการสมาคมโรงสีข้าวไทยชุดแรกนี้ ตามข้อบังคับอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี  แต่ก็อาจได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้ สำหรับที่ทำการของสมาคมฯ คือ ตึกเลขที่ 81-81/1 ตรงข้ามที่ว่าการเขตสัมพันธวงศ์ เป็นอาคารสองคูหาสี่ชั้น ซึ่งคณะกรรมการจำนวน 20 ท่าน ได้เสียสละออกเงินส่วนตัวจำนวน 1.5 ล้านบาท เซ้งอาคารดังกล่าวเพื่อให้สมาคมฯ ได้เข้าเป็นที่ทำการตามมติของคณะกรรมการ พร้อมทั้งได้มงคลฤกษ์ใน วันที่ 11 ธันวาคม 2521 เป็นวันเปิดป้ายสมาคมโรงสีข้าวไทย และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อันเป็นสิ่งนำมาซึ่งความประทับใจเป็นอย่างยิ่งจนทุกวันนี้ โดยมี  มวลสมาชิกมาร่วมพิธีจำนวน 465 โรง

            การที่จะดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนี้ มิใช่แต่ลำพังข้าพเจ้าเอง และเพื่อนเท่านั้นที่จะกระทำได้ แต่จำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากเพื่อนผู้ประกอบกิจการโรงสีข้าวทุกท่านทั่วประเทศจึงจะทำให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายได้

              สมาคมฯ นี้มีวัตถุประสงค์ซึ่งจะกล่าวพอเป็นสังเขป ดังนี้

          - ส่งเสริมกสิกรรม และอุตสาหกรรมโรงสีประเภท ข้าว  และข้าวเปลือก ให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของตลาดภายใน และภายนอกประเทศ และรักษาคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในมาตรฐานที่ดี สมดังความนิยมของผู้ซื้อ

            - รวบรวมสถิติการผลิต การจำหน่าย การส่งออกต่างประเทศ และร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิต และการตลาดเกี่ยวกับ ข้าวเปลือก, ข้าวสาร ตลอดจนรวบรวมข้อมูลผลผลิตทางการเกษตรแต่ละชนิดของเกษตรกร และผลผลิตของสมาชิกเพื่อเป็นแนวทางเสนอให้รัฐบาลทราบถึงปริมาณว่า มีจำนวนเท่าใดในฤดูกาลหนึ่ง ๆ

           - สนับสนุน และช่วยเหลือมวลสมาชิก เพื่อแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆสอดส่อง และติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด ทั้งตลาดภายใน และภายนอกประเทศ รวมทั้งการประสานความสามัคคี แลกเปลี่ยนความคิด เห็นในด้านวิชาการ,ข่าวสาร การวิจัยเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และแนวโน้มของผู้อุปโภค-บริโภค

            - เพื่อช่วยเหลือสังคมส่วนรวม และสาธารณประโยชน์ ส่งเสริมพลานามัย, การกีฬา,บันเทิง และให้ความอนุเคราะห์แก่สมาชิกด้านงานสวัสดิการ

            วัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นการขจัดช่องว่างระหว่างผู้ประกอบกิจการโรงสีข้าวกับชาวนา และทางราชการเพื่อให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

 

          ต่อมาคณะกรรมการบริหารได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนสมาชิกทางภาคอีสาน ระหว่าง   วันที่ 25-27 พฤษภาคม 2522 จึงมีสมาชิกสมัครเพิ่มขึ้นทุกวันจนถึงปัจจุบันนี้  สมาคมโรงสีข้าวไทยมีผู้ประกอบการสมัครเข้าเป็นสมาชิกมากกว่า 800 ราย




เกี่ยวกับสมาคม

รายนามผู้บริหาร
วัตถุประสงค์



Copyright © 2015 All Rights Reserved by Thai Rice Mills Association.